บัคกี้ เออร์วิ่ง ทำผลงานน่าประทับใจจนมีเสียงหนุนให้รันนิ่งแบ็กรุคกี้ของ แทมป้า เบย์ บัคคาเนียร์ส ถือบอลวิ่งมากกว่าผู้เล่นประสบการณ์อย่าง ราชาด ไวท์ ท็อดด์ โบว์ลส์ หัวหน้าโค้ช แทมป้า เบย์ บัคคาเนียร์ส ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่จะมอบหมายให้ บัคกี้ เออร์วิ่ง รันนิ่งแบ็กรุคกี้ดราฟท์รอบ 4 แบกรับภาระถือบอลวิ่งมากกว่า ราชาด ไวท์ แม้ว่าตัววิ่งมือใหม่จะทำผลงานยอดเยี่ยมตลอด 3 เกมแรกของซีซั่นนี้ก็ตาม จากรายงานของเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์ค ตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เออร์วิ่ง เป็นผู้นำของ บัคคาเนียร์ส ด้วยการถือบอลวิ่ง 154 หลา และเป็นรุคกี้เป็นคนเดียวที่ถือบอลวิ่งมากกว่า 100 หลาในซีซั่น 2024 โดยทำระยะเฉลี่ย 6.2 หลาต่อครั้งอยู่ใน 4 อันดับแรก ขณะที่ ไวท์ ทำระยะเฉลี่ยเพียง 2.1 หลาจากการถือบอลวิ่ง 31 ครั้ง ระยะ 66 หลา 'ในแง่ของเกมวิ่งที่กำลังดำเนินไป ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นโค้ช, ผู้เล่น, ปีกนอก, ปีกใน, ออฟเฟนซีฟไลน์, รันนิ่งแบ็ก' โบว์ลส์ กล่าว 'ในเวลาเดียวกัน เราจำเป็นต้องมี บัคกี้ และ ราชาด ตลอดทั้งปี บัคกี้ มีแผนการวิ่งที่ได้ผลและ ราชาด ก็มีแผนการวิ่งที่ได้ผลเช่นกัน นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาเล่นได้ดีขึ้น นั่นหมายความว่าเราไม่สามารถเปิด (ช่องว่าง) ได้เมื่อเรามี ราชาด อยู่ที่นั่น' 'เราจะใช้ทั้งสองคนตลอดทั้งปี วิธีการเล่นและปริมาณการเล่นของพวกเขาจะเปลี่ยนไปทุกเกม ดังนั้นมันจะไม่แตกต่างกัน'
บาเยิร์น มิวนิค ได้เพียงเสมอ เลเวอร์คูเซ่น 1-1 ในเกมที่มีโอกาสลุ้นทำประตูมากมาย ศึกบุนเดสลีกา นัดบิ๊กแมตช์ บิ๊กแมตช์บุนเดสลีกา บาเยิร์น ที่ชนะ 6 นัดติดในทุกรายการ ส่ง ไมเคิ่ล โอลิเซ่, จามาล มูเซียล่า, แซร์ช นาบรี้ และ แฮร์รี่ เคน เล่นเกมรุกร่วมกัน ส่วน เลเวอร์คูเซ่น นำมาโดย กรานิต ชาค่า, วิคเตอร์ โบนิเฟซ และ โฟลเรียน เวียร์ทซ์ เริ่มเกมมาในช่วงแรก บาเยิร์น เป็นฝ่ายครองบอลได้ดีกว่า และมีโอกาสจาก ราฟาแอล เกร์เรยโร่ และ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ แต่บอลยังไม่เข้ากรอบ ทว่านาที 31 กลับเป็น เลเวอร์คูเซ่น ที่ออกนำก่อนจากโอกาสลุ้นจะแจ้งครั้งแรกในลูกเตะมุมที่บอลเลยมาเสาไกล กรานิต ชาคา พักบอลลงก่อนไหลให้ โรเบิร์ต อันดริช ยิงจากหน้าเขตโทษส่งบอลพุ่งเสียบเสาสวยงาม แต่ บาเยิร์น ก็ตามตีเสมอ 1-1 ได้เร็วในอีก 8 นาทีถัดมา แนวรับทีมเยือนเคลียร์บอลเข้าทาง อเล็กซานดาร์ พาฟโลวิช พักอกเอาบอลงก่อนวอลเลย์ตูมเดียวส่งบอลพุ่งและส่ายก่อนมุดใต้คานงามหยด ครึ่งหลังนาที 48 บาเยิร์น พลาดได้ประตูเหลือเชื่อ แฮร์รี่ เคน เปิดบอลจากขวาเข้าเขตโทษให้ แซร์ช นาบรี้ ยิงด้วยซ้ายย้อนผ่าน ลูคัส ฮราเดชกี้ ได้แล้ว แต่บอลชนเสา จังหวะสองเข้าทาง นาบรี้ ได้หวดด้วยขวา แต่ก็ซัดไปชนคานอีก เลเวอร์ฯ รอดเสียประตู นาที 57 บาเยิร์น มีโอกาสอีกครั้งจากการยิงของ ไมเคิ่ล โอลิเซ่ แต่ก็ติดเซฟ ตามด้วยการยิงของ โยชัว คิมมิช แต่ก็ยังไม่เป็นประตู ท้ายเกมนาที 82 บาเยิร์น มีโอกาสอีกครั้งจากการโหม่งเช็ดของ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ที่จบด้วยการยิงของ คิม มิน-แจ แต่ก็ติดเซฟของ ฮราเดชกี้ ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้นทำให้จบเกม บาเยิร์น มิวนิค ได้เพียงเสมอ เลเวอร์คูเซ่น 1-1 แบ่งกันไปทีมละคะแนน
คาร์โล อันเชล็อตติ ยืนยันว่า เรอัล มาดริด จะไม่เปลี่ยนแปลงเรื่องแท็คติกการเล่นมากนักแม้ว่าจะปราศจาก คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ในเกมมาดริดดาร์บี้แมตช์ก็ตาม คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ เรอัล มาดริด เปิดเผยว่าทีมชุดขาวจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักเรื่องแท็คติกการเล่น หลังการบาดเจ็บของ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ก่อนลงทำศึกดาร์บี้แมตช์กับ แอตเลติโก มาดริด วันอาทิตย์นี้ ตามรายงานจาก 'เดียรีโอ อาส' เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 'ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องระบบการเล่นมากนัก 4-3-3 สามารถเปลี่ยนเป็น 4-42 ได้ด้วยผู้เล่นชุดเดิม มันอาจเป็นได้ว่าหากมีกองหน้า 3 คน มันจะเป็น 4-4-2 โดยมี วีนี่ หรือ โรดรีโก้ เป็นปีก สิ่งที่ผมต้องการคือให้ทีมสนับสนุนและทุ่มเท เราคุ้นเคยกับการเล่นโดยไม่มี เอ็มบั๊ปเป้ เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ในฤดูกาลที่แล้ว เราจะไม่เป็นไร' อันเชล็อตติ กล่าว เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนยังยืนยันว่า เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า จะพร้อมสำหรับเกมเยือน ซีบีตาส เมโตรโปลีตาโน่ วันอาทิตย์นี้ หลังมิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสกลับมาลงซ้อมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 'กามาวิงก้า ฟื้นตัวได้ดี เขาอยู่ในสภาพที่ดี หากมีนักเตะพร้อมลงเล่น เขาสามารถเล่นได้ 90 นาทีหรือ 0 นาที'
ฌอน ไดช์ ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน เป่าปากด้วยความโล่งอก หลังพาทีมเก็บชัยชนะนัดแรกในฤดูกาลนี้ได้แล้ว เอฟเวอร์ตัน เริ่มต้น 5 นัดแรกไม่ดีมีเพียงคะแนนเดียว ก่อนปลดล็อกเก็บชัยชนะนัดแรกได้สำเร็จด้วยการยิงแซงชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 จากการเหมายิงของ ดไวท์ แม็คนีล ไดช์ กล่าวหลังเกมว่า "ผมดีใจกับนักเตะจริงๆ พวกเขาทำงานกันหนักมากๆ ในการเปลี่ยนผลการแข่งขันให้ได้" "เรารู้ว่ามีเครื่องหมายคำถามในหลายๆ สิ่ง และแน่นอนเป็นความโล่งใจสำหรับผมในวันนี้ เช่นเดียวกับนักเตะ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องปกติ" "มีการคาดหวังมากมายที่เราแบกรับ และเราจำเป็นต้องตอบสนองให้ได้ และผมคิดว่าเราทำได้ในวันนี้ เราทำได้ดีพอในการชนะ และนั่นคือสิ่งสำคัญ"
อาร์เซน่อล ฮึดยิง 2 ประตูในช่วงทดเจ็บเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบสุดมันส์ 4-2 หลังจากโดนทัพจิ้งจอกตีเสมอ 2-2 จนเกือบแบ่งแต้ม ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล 4 - เลสเตอร์ 2 สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อาร์เซน่อล กลับมาใช้งานชุดใหญ่อีกครั้งหลังพักหลายคนในคาราบาว คัพ และได้ เลอันโดร ทรอสซาร์ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยเกมรุก ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้ นำมาโดย เจมี่ วาร์ดี้ เริ่มเกมมานาที 15 อาร์เซน่อล ได้โอกาสยิงครั้งแรกจาก บูคาโย่ ซาก้า ที่พลิกบอลเข้าไปกดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ แต่ แมดส์ เฮอร์มันเซ่น ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้ อีกไม่ถึงนาทีถัดมา อาร์เซน่อล น่าจะได้ประตูสุดๆ เมื่อ ซาก้า ไหลโล่งๆ ไปซ้ายให้ มาร์ติเนลลี่ ที่ใช้เวลาแต่งบอลนานไปนิดทำให้มีผู้เล่นทีมเยือนพุ่งขวาง และยิงงัดข้ามคานน่าเสียดาย อาร์เซน่อล นำ 1-0 จนได้ในนาที 20 ยูร์เรียน ทิมเบอร์ เติมขึ้นมาเปิดจากขวาเข้าเขตโทษ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ได้ตวัดยิง แม้ไม่แรงมาก แต่ทิศทางเบียดเสาเข้าไป นาที 37 ยังเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ลุ้นต่อเนื่อง เลอันโดร ทรอสซาร์ ได้จังหวะหยอดจากขวาเข้าเขตโทษ ไค ฮาแวร์ตซ์ เทกขึ้นโหม่งย้อนกลับเสาแรก แต่บอลถากเสานิดเดียว ช่วงทดเจ็บ ปืนใหญ่ นำ 2-0 เมื่อ กาเบรียล มาร์ตินเนลลี่ ได้บอลในเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจ่ายให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ แปนิ่มๆ ตุงตาข่าย และจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้ ครึ่งหลังกลับมาเล่นได้ 2 นาที เลสเตอร์ ตีไข่แตกได้จากฟรีคิกฝั่งซ้ายที่ ฟากุนโด้ บัวนาน็อตเต้ เปิดเข้าเขตโทษให้ เจมส์ จัสติน ได้โหม่งไปแฉลบตัว ไค ฮาแวร์ตซ์ ทำให้บอลเปลี่ยนเข้าประตู ราย่า พุ่งไปอีกทางจึงกลับมาเซฟไม่ทัน อาร์เซน่อล เกือบได้ลูกสามในนาที 53 จากเตะมุมที่ ซาก้า เปิดเข้าจุดนัดพบ กาเบรียล มากัลเญส โขกเสาแรก แมดส์ เฮอร์มันเซ่น ผวาเซฟได้ คาลาฟิออรี่ ได้โหม่งซ้ำแต่ก็ติดเซฟอีก จังหวะสุดท้ายเข้าทาง ยูร์เรียน ทิมเบอร์ ได้ยิงแต่โด่งข้ามคาน นาที 58 ปืนใหญ่น่าจะได้อีกครั้ง ซาก้า ล็อกยิงติดบล็อกในเขตโทษ บอลเด้งเข้าทาง ทรอสซาร์ หวดทันที บอลผ่านมือ เฮอร์มันเซ่น ไปแล้วแต่ชนเสาเด้งออกหลังไป เลสเตอร์ ทำช็อกเจ้าถิ่นด้วยประตูตีเสมอ 2-2 ในนาที 64 วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ เปิดบอลโค้งจากซ้ายเข้าเขตโทษ เจมส์ จัสติน วางเท้าวอลเลย์เน้นๆ ส่งบอลติดไซด์โค้งเข้าเสาไกลงามหยด อาร์เซน่อล เกือบนำในนาที 68 ซาก้า ยิงไกลติดบล็อกเด้งเข้าทาง ไค ฮาแวร์ตซ์ เกี่ยวได้แล้วพลิกยิงจ่อๆ ทว่า เฮอร์มันเซ่น เซฟได้สุดยอด นาที 74 เจ้าถิ่นพลาดได้ประตูนำอีกครั้งเมื่อ เฮอร์มันเซ่น ออกบอลพลาด เดแคลน ไรซ์ เก็บได้แล้วไหลให้ ทรอสซาร์ ยิงจ่อๆ ในเขตโทษ ทว่า เฮอร์มันเซ่น แก้ตัวปัดบอลทิ้งได้เหลือเชื่อ ก่อนจบเกม 2 นาที อาร์เซน่อล น่าจะได้อีกครั้งจากเตะมุมฝั่งขวาที่ ซาก้า โยนให้ คาลาฟิออรี่ โขกเน้นๆ เสาไกล ทว่า เฮอร์มันเซ่น ซูเปอร์เซฟได้อีก ช่วงทดเจ็บ อาร์เซน่อล ได้ประตู 3-2 จากเตะมุมฝั่งขวาที่เลยมาเสาไกล ทรอสซาร์ ได้กระแทกบอลยัดไปเสาแรกเด้งโดนตัวผู้เล่นเลสเตอร์ก่อนเปลี่ยนทางเข้าประตู จากนั้น ไค ฮาแวร์ตซ์ มาบวกอีกลูกก่อนจบเกมไม่กี่อึดใจทำให้ชนะไป 4-2 ทำให้เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ รายชื่อผู้เล่นทั้่งสองทีม อาร์เซน่อล : เดวิด ราย่า - ยูร์เรียน ทิมเบอร์, วิลเลี่ยม ซาลีบา, กาเบรียล มากัลเญส, ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ - บูคาโย่ ซาก้า, โธมัส ปาร์เตย์, เดแคลน ไรซ์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ - ไค ฮาแวร์ตซ์, เลอันโดร ทรอสซาร์ เลสเตอร์ : แมดส์ เฮอร์มันเซ่น - เจมส์ จัสติน, คาเล็บ โอโคลี่, เวาต์ ฟาส, วิคตอร์ คริสเตียนเซ่น - แฮร์รี่ วิงค์ส, โอลิเวอร์ สคิปป์ - ฟากุนโด้ บัวนาน็อตเต้, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, สเตฟี่ มาวิดิดี้ - เจมี่ วาร์ดี้ ผู้ตัดสิน : แซม บาร์ร็อตต์
คารีม ฮันท์ มั่นใจว่าตนเองสามารถสร้างผลกระทบต่อทีมบุกของ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ หลังการคืนถิ่นทัพหัวหน้าเผ่าอีกครั้ง คารีม ฮันท์ รันนิ่งแบ็กวัย 29 ปี เชื่อมั่นว่าตนเองต้องการพิสูจน์ตัวเองยังสามารถสร้างความแตกต่างได้เช่นกันและพร้อมสร้างความตกตะลึงให้โลกตะลึงหลังหวนคืน แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ อีกครั้ง ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์ค ฮันท์ เคยเล่นกับ ชีฟส์ ในช่วงอาชีพ 2 ปีแรก นับตั้งแต่เข้าลีกฐานะดราฟท์รอบ 3 คลาส 2017 ก่อนทัพหัวหน้าเผ่าจะปล่อยตัวออกจากทีม หลังมีการเผยแพร่คลิปที่เขาทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่ง เขาย้ายไปเล่นกับ คลีฟแลนด์ บราวน์ส ในช่วงปี 2019-2023 จนกระทั่งกลายเป็นฟรีเอเจนต์ในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา จากนั้น ชีฟส์ ดึง ฮันท์ กลับมาเซ็นสัญญาเข้าทีมชุดฝึกซ้อมเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา หลังการบาดเจ็บของ ไอเซห์ ปาเชโก้ ก่อนทัพหัวหน้าเผ่าจะโปรโมตเข้าสู่บัญชีรายชื่อในอีก 1 สัปดาห์ถัดมา ซึ่งรันนิ่งแบ็กวัย 29 ปีมีความกระตือรือร้นที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง 'ใช่, ผมเชื่อว่าผมยังคงสามารถทำได้' ฮันท์ กล่าว 'ผมตื่นเต้นที่จะไปช่วยสร้างความตกตะลึงให้กับโลกและแสดงให้พวกเขาเห็นว่าผมยังทำได้' ฮันท์ กลับมาอยู่ในจุดที่คุ้นเคยอีกครั้งกับทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากโดยไม่มีเขา โดยคว้าแชมป์ ซูเปอร์ โบวล์ 3 สมัยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่เขาตื่นเตนกับการพบเพื่อนเก่าอีกครั้ง แต่ก็ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องยากที่เห็นทีมประสบความสำเร็จโดยปราศจากเขา ทว่าเขารู้สึกดีที่ได้โอกาสลงเล่นครั้งที่สองกับทีมของ แอนดี้ รีด อีกครั้ง เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการปรับตัว ฮันท์ เผยว่าเขาสามารถปรับเข้ากับสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยได้อย่างรวดเร็วและต้องการพิสูจน์ว่ายังมีแรงพอที่จะสร้างความแตกต่างได้เช่นกัน 'ผมจะบอกว่าพวกเขารู้จักผม ผมแค่ต้องเดินหน้าและเป็นตัวของตัวเอง' ฮันท์ กล่าว 'ผมเห็นคนเก่งๆมากมายที่นี่ พวกเขามีคนเก่งๆมากมายตั้งแต่ผมมาที่นี่ เมื่อเห็น แพท เติบโตและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและกลายเป็นผู้นำของทีมนี้ เพราะในปีแรกของผม ผมเล่นกับ อเล็กซ์ (สมิธ) และเขาเป็นแบบนั้น ดังนั้นผมจึงรู้สึกว่าแค่ได้เห็นผู้เล่นที่เขาเปลี่ยนไป ผมก็มีความสุขมากแล้ว' รันนิ่งแบ็กวัย 29 ปียังกล่าวถึงเฮดโค้ช รีด ว่า 'เขารู้ว่าผมเป็นคนแบบไหน เขาแค่บอกว่าทำในสิ่งในนายทำอยู่ ทำใจให้สบายและมีสมาธิ แล้วทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติเอง' เมื่อถูกถึงการหวนคืน แคนซัส ซิตี้ อีกครั้ง ฮันท์ ตอบว่า 'มันยังคงยากที่จะจินตนาการ ผมเดาว่าเมื่อวันนั้นมาถึง มันจะรู้สึกเป็นจริงขึ้นมา มันเป็นเวลานานมากแล้วที่จะมาถึง ผมแทบรอไม่ไหวที่จะสวมเสื้อสีแดงอีกครั้งและออกไปที่นั่นพร้อมคนเหล่านี้และทุ่มสุดตัวเพื่อพวกเขา' 'ผมจินตนาการว่าจะออกไปที่นั่น และทำในสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้ทำ ผมจะทำในระดับสูงสุด และช่วยหาหนทางเพื่อให้ชัยชนะยังคงดำเนินต่อไปที่นี่'
ซน ฮึง-มิน เป็นผู้เล่นชื่อดังรายล่าสุดก็ออกมาวิจารณ์ถึงจำนวนเกมที่เพิ่มขึ้นของผูัเล่น และเรียกร้องให้คนที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังท่ามกลางข่าวลือว่าบรรดานักเตะพร้อมนัดกันสไตรค์ ซน กลายเป็นนักเตะรายล่าสุด เช่นเดียวกับ โรดรี้ เอร์นานเดซ, มานูเอล อคานจี และ อาลีสซง เบ็คเกอร์ ที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาระงานที่เพิ่มเติมจนแทบจะมากเกินไป โรดรี้ ซึ่งบาดเจ็บหนักที่เอ็นหัวเข่าในเกมเสมอ อาร์เซน่อล 2-2 เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าผู้เล่นใกล้ที่จะออกมาสไตรค์ เนื่องด้วยจำนวนเกมที่มากขึ้น เมื่อพูดก่อนเกมยูโรปา ลีก นัดแรกในฤดูกาลนี้ของ สปอร์ส ที่จะพบกับ คาราบัก ซน กล่าวว่า "ผู้เล่นหลายคนออกมาและพูดสิ่งที่ถูกต้อง และผมคิดว่ามันสำคัญมากที่จะต้องมีใครสักคนออกมาพูดสิ่งที่ถูกต้องจริงๆ" "นักเตะคือแกนสำคัญที่ต้องพูดอะไรสักหน่อย และแน่นอนว่ามันมีเกมมากมาย ในฐานะแฟนบอลคุณอยากเห็นเกมที่มีคุณภาพ ไม่ใช่เกมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และคุณไม่ต้องการเห็นผู้คนหรือผู้เล่นต้องดิ้นรนด้วยอาการบาดเจ็บซึ่งไม่มีใครอยากเห็น" "แน่นอนว่ามันเป็นเกมที่เยอะมาก การเดินทางก็เยอะมาก ดังนั้นเราต้องดูแลตัวเองซึ่งบางครั้งมันก็ยากมาก และบางครั้งทั้งจิตใจและร่างกายของคุณก็ไม่พร้อม และเมื่อคุณลงสนามมันก็มีความเสี่ยงที่จะบาดเจ็บครั้งใหญ่" "เราไม่ใช่หุ่นยนต์ ดังนั้นผมคิดว่าเราแค่ต้องดูแลสิ่งนั้น และลดจำนวนเกมลง และสามารถเล่นเกมที่มีคุณภาพที่ดีขึ้นได้ ผมคิดว่านี่ควรจะเป็นจุดมุ่งหมาย"
ลูกัส บาซเกซ แบ็กขวา เรอัล มาดริด มองว่าผู้ตัดสินเข้มงวดกับนักเตะทีมชุดขาวเกินไปจนรับใบเหลืองระนาวจากการประท้วง ลูกัส บาซเกซ แบ็กขวา เรอัล มาดริด รู้สึกว่านักเตะทีมชุดขาวถูกผู้ตัดสินเข้มงวดมากเกินไป หลังเชิ้ตดำ อาเลฆานโดร มูนญีซ รูอีซ แจก 4 ใบเหลืองในเกมล่าสุดที่ชนะ อลาเบส 3-2 บนเวทีลีกา ตามรายงานจากมาร์ก้าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการผู้ตัดสินได้นำกฎใหม่มาใช้ ซึ่งกำหนดให้กัปตันทีมเท่านั้นที่สามารถพูดคุยกับเชิ้ตดำเกี่ยวกับการตัดสิน และการแสดงท่าทีใดๆที่ไม่เห็นด้วย รวมถึงการแสดงท่าทางต่างๆจะถูกลงโทษด้วยการแจกใบเหลือง นี่เป็นกฎที่ทำให้นักเตะต้องปรับตัว โดยเฉพาะแข้งทีมชุดขาวที่รับใบเหลือง 9 จาก 15 ครั้งมาจากการประท้วงการตัดสิน และ 6 ใน 8 ใบล่าสุดที่มาจากเหตุผลเดียวกัน ขณะที่นักเตะ บาร์เซโลน่า และ แอตเลติโก มาดริด ยังไม่ถูกจดชื่อจากการประท้วงผู้ตัดสิน 'ผมคิดว่าพวกเขาเข้มงวดมาก วันนี้สิ่งที่ เฟเด (วัลเวร์เด้) ทำเป็นเพียงเรื่องราวเล็กน้อย ผมคิดว่าสิ่งที่เขาทำในนาทีที่ 3 นั้นไม่สมควรได้รับใบเหลือง เมื่อวันก่อน การกระทำของ คีลียัน ค่อนข้างอ่อนไหว เราเข้าใจว่าผู้ตัดสินต้องการหยุดเสียงคร่ำครวญลงหน่อย แต่ผมคิดว่าเราต้องการจุดกึ่งกลาง' 'ทุกคนในสนามเคลื่อนไหวเร็วมาก และเราต้องเข้าใจนักเตะและลดมาตรฐานลงเล็กน้อย ในเกมสองนี้ การประท้วงจะได้รับโทษมากกว่าการเตะ เราได้รับใบเหลือง 2 ใบโดยไม่ได้ทำฟาวล์แม้แต่ครั้งเดียว และจากการทำฟาวล์ 10 ครั้ง พวกเขาไม่ได้ใบเหลืองแม้แต่ใบเดียว ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องดู แต่ผมเข้าใจว่าทุกอย่างจะดีขึ้น' บาซเกซ กล่าว
แช้ด บูคาแนน ผจก.ทั่วไป อินเดียนา เพเซอร์ส ชัดเจนว่าอยากเก็บเซนเตอร์ มายล์ส เทอร์เนอร์ อยู่ด้วยกันต่อไปนานกว่าแค่ซีซั่นนี้ เทอร์เนอร์ มีกำหนดรับ 19,928,500 เหรียญ สหรัฐฯ ในฤดูกาล 2024-25 ก่อนจะกลายเป็นอันรีสตริคต์ ฟรีเอเจนต์ ซัมเมอร์หน้า ซึ่งตามสิทธิสามารถตกลงต่อสัญญาใหม่เพิ่มได้ก่อนปฏิทินแข่งขันซีซั่นหน้าเริ่มอย่างเป็นทางการ จนถึงตอนนี้ท่าทีจากเอเจนต์นักกีฬายังไม่ออกมาให้ข่าวใดๆ มีเพียงฝั่งจีเอ็ม. เพเซอร์ส ที่เปิดโอกาสให้อยู่ด้วยกันต่อ “เรามีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งใหญ่ในตัว มายล์ส เราต้องการให้เขาอยู่ที่นี่” การเปิดปากระหว่างแถลงข่าวกับสื่อมวลชน เตรียมเข้าเทรนนิ่ง แคมป์ “พัฒนาการของเขาลงตัวกับการฝึกสอนของเฮดโค้ช ริค คาร์ไลส์ล” “เขาลงตัวกับการ์ดจ่ายของเรา, ลงตัวกับฟอร์เวิร์ด ปาสกาล ซิยาก็อม -คุณก็เห็นว่ามันไร้ตะเข็บในแนวทางที่เราเล่น” เทอร์เนอร์ เป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลต่อทีมทั้งเกมรุก-เกมรับ ผลงานเฉลี่ย 17.1 แต้ม, 6.9 รีบาวน์ดและ 1.9 บล็อค อย่างไรก็ตามการต่อสัญญา เทอร์เนอร์ คงไม่ใช่งาง่ายเพราะเพดานค่าจ้างของทีมเริ่มตันเนื่องจากให้สัญญายาวก้อนโตแก่ ไทรีส แฮลิเบอร์ตัน, ซิยาก็อม, ฟอร์เวิร์ด โอบี ท็อปปิ้น และ สองการ์ด แอนดรูว์ เนมเบิร์ด, ที.เจ. แม็คคอนเนลล์ ระหว่างปิดซีซั่น กรณีต่อสัญญาราคาตลาดแก่ผู้เล่นวัย 28 ปี ก็จะทำให้ฤดูกาล 2025-26 ทีมโดนเรียกเก็บภาษีใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินเพดานค่าจ้าง
พอล สโคลส์ ออกมาเปิดเผยว่า อาร์เซน่อล ทำให้เขาต้องผิดหวังในฤดูกาลนี้ แม้ว่า ปืนใหญ่ จะยังไม่แพ้ใครหลังผ่านมา 5 นัดแรกในพรีเมียร์ลีก ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เก็บไป 11 แต้ม จากทั้งหมด 15 คะแนน หลังเจอกับโปรแกรมที่ยุ่งยาก รวมถึงเกมเยือน แอสตัน วิลล่า, สปอร์ส และ แมนฯ ซิตี้ ด้วย พวกเขาคว้าชัยที่วิลล่า และก็คู่แค้นร่วมลอนดอนเหนือ ก่อนที่จะเสมอกับ ซิตี้ 2-2 ในเกมที่ดุเดือดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และอยู่ห่างจากจ่าฝูงแค่ 2 คะแนน กระนั้น สโคลส์ กลับไม่ประทับใจวิธีการเล่นของ เดอะ กันเนอร์ส ในช่วงสัปดาห์แรกๆ ของซีซั่น เมื่อพูดคุยกับ ดิ โอเวอร์แล็ป แฟน ดีเบต ซึ่งนำเสนอโดย สกายเบ็ท สโคลส์ กล่าวว่า "ถึงจุดหนึ่ง อาร์เซน่อล จะต้องเอาชนะพวกเขา (แมนฯ ซิตี้ ที่เอติฮัด) พวกเขาเกือบทำได้แล้ว และมันก็เป็นความพยายามครั้งยิ่งใหญ่" "ผมนั่งอยู่ที่นี่ตอนต้นฤดูกาลและคิดว่า อาร์เซน่อล อาจจะคว้าแชมป์ลีก แต่ผมผิดหวังเล็กน้อยกับการออกสตาร์ทฤดูกาลของพวกเขา"