"พิเชษฐ์" เผยเตรียมเสนอรัฐบาลเปิดบ่อนถูกกฎหมาย 5 แห่งทั่วไทย

[alongkorn6789]

"พิเชษฐ์" เผย กมธ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ เตรียมเสนอรัฐบาลเปิดบ่อนถูกกฎหมาย 5 แห่งทั่วประเทศ จัดเก็บภาษีเข้ารัฐ 30% เชื่อลดปัญหาบ่อนผิดกฎหมายได้ คาดเสนอสภาฯ พิจารณาเดือน พ.ย.นี้

วันนี้ (29 มิ.ย.2565) คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรฯ สภาผู้แทนราษฎร คาสิโนออนไลน์ ประชุมติดตามความคืบหน้าการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรแบบถูกกฎหมาย หลังจากศึกษาความเป็นไปได้ที่จะแก้ไขให้ถูกกฎหมาย และแก้ไขการลักลอบเล่นการพนันผิดกฎหมาย

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธาน กมธ.คนที่ 2 เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการเตรียมสรุปรายงานผลการศึกษา ส่งให้รัฐบาลพิจารณาเปิดสถานบันเทิงครบวงจรในแต่ละภาครวม 5 แห่ง คือ ภาคเหนือ จ.เชียงราย หรือเชียงใหม่, ภาคกลาง เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ EEC, รวมถึงในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุบลราชธานี อุดรธานี และขอนแก่น, ภาคใต้ จ.ภูเก็ต พังงา และกระบี่ โดยให้ทดลองเปิดภาคละ 1 จังหวัด ซึ่งสถานบันเทิงครบวงจรดังกล่าวจะเปิดให้เล่นการพนันทุกรูปแบบ ทั้งการพนันพื้นบ้าน การพนันแบบสากล รวมทั้งการพนันออนไลน์



นายพิเชษฐ์ ระบุอีกว่า การเปิดสถานบันเทิงดังกล่าว รัฐบาลจะเปิดให้มีสัมปทานจากเอกชนมาร่วมธุรกิจ โดยรัฐจะจัดเก็บภาษีร้อยละ 30 รวมทั้งภาษีบำรุงท้องที่ เพื่อนำเงินไปบำรุงในพื้นที่เปิดสถานบันเทิง

ส่วนการเข้าไปใช้บริการจะต้องกำหนดอายุ 20 ปีขึ้นไป บุคคลทั่วไปต้องแสดงสถานะการเงินก่อนเข้าใช้บริการ และห้ามข้าราชการเข้าใช้บริการ เว้นแต่มีใบอนุญาต โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้ศึกษารูปแบบของสถานบริการในต่างประเทศหลายแห่งทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย และปรับรูปแบบให้ตรงกับประเทศไทย ซึ่งหากเปิดสถานบันเทิงลักษณะนี้ได้ บาคาร่าออนไลน์ เชื่อว่าจะลดปัญหาการลักลอบเล่นการพนัน และรัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้จำนวนมาก รวมทั้งเชื่อว่าจะสามารถลดปัญหามาเฟียหรือผู้มีอิทธิพลคุมบ่อนผิดกฎหมายได้
 
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการฯ ได้ศึกษา พ.ร.บ.การพนัน มาตรา 4 โดยจะเสนอให้รัฐบาลออกกฤษฎีกาในข้อกำหนดเพิ่มเติม เรื่องการอนุญาตให้เปิดสถานบริการ รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นายพิเชษฐ์ ยังระบุว่า การเสนอให้ตั้งสถานบันเทิงเต็มรูปแบบและถูกกฎหมายครั้งนี้ จุดประสงค์หลักเพื่อต้องการให้บริการนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย โดยหลังจากนี้อีกประมาณ 1 เดือนจะส่งรายงานข้อสรุปให้รัฐบาลพิจารณา และเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาภายในเดือน พ.ย.นี้