08-30-2022, 06:34 AM
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวยูนิฟอร์มกีฬา “SAT กับการพัฒนากีฬาไทย ภายใต้นโยบาย BCG” ที่ลานกิจกรรมด้านหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อ 29 ส.ค.65 โดยมี นายวุฒิพงศ์ เย่ ประธานกลุ่มธุรกิจเย่ห์กรุ๊ป พร้อมด้วยผู้แทนจากสโมสรฟุตบอล ทรูแบงค็อกยูไนเต็ด, เกษตรศาสตร์ เอฟซี, สยามเอฟซี และคณะผู้บริหาร กกท. ร่วมงาน
ตามที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กำหนด นโยบายโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Bio – Circular – Green Economy: BCG Model) ซึ่งประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว มาเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการ “การท่องเที่ยวและกีฬาสีขาว” เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน นั้น กกท. จึงจัดกิจกรรม “SAT กับการพัฒนากีฬาไทย ภายใต้นโยบาย BCG” เพื่อเป็นการเปิดตัวยูนิฟอร์ม กกท. ที่ผลิตจากนวัตกรรม “drydye” ซึ่งเป็นนวัตกรรมการย้อมผ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตอบสนองกับนโยบาย BCG Model และก่อให้เกิดการสร้างความรู้ความเข้าใจขั้นพื้นฐานของนโยบายดังกล่าว ให้เข้าถึงประชาชน และเยาวชนในวงกว้าง
ผู้ว่าการ กกท. เผยว่า การขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาการกีฬาของประเทศไทย ภายใต้นโยบาย BCG Model เป็นการปลูกจิตสำนึกผู้มีส่วนร่วมทางการกีฬา อาทิ ผู้จัดหาวัสดุอุปกรณ์การกีฬา ผู้จัดการกีฬา และสาธารณชน ให้เกิด “พฤติกรรมภายใน” ซึ่งได้แก่ “การมีน้ำใจนักกีฬา เพื่อรักษ์สิ่งแวดล้อม” คือ รู้จักใช้ และอนุรักษ์ทรัพยากร เห็นความสำคัญ และคุณค่าของทรัพยากรที่ใช้ในกิจกรรมกีฬา โดยสามารถนำทรัพยากรไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือดำเนินกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด พร้อมทั้งปรับปรุงฟื้นฟูให้อยู่ในสภาพคงเดิมหลังการดำเนินกิจกรรม
ดร.ก้องศักด ยังเผยอีกว่า นอกจากนี้ยังเกิดการพัฒนาเป็น “พฤติกรรมภายนอก” ในการดำเนินกิจกรรมกีฬาให้ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเชิงบูรณาการ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการดำเนินกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ และการแข่งขันกีฬาเพื่อการอาชีพในระดับชาติและระดับนานาชาติ โดยอาศัยการบูรณาการและความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เกิดเป็นกิจกรรมกีฬาที่หลากหลาย พัฒนาเป็นอุตสาหกรรมกีฬา สร้างเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคมและประเทศชาติ ให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน
ด้าน วุฒิพงศ์ เย่ ประธานกลุ่มธุรกิจเย่ห์กรุ๊ป กล่าวว่า ในฐานะผู้ผลิตเสื้อผ้านวัตกรรม “drydye” ไม่ว่าจะเป็น ยูนิฟอร์มของทางกกท. และเสื้อของนักฟุตบอลจาก 3 สโมสร ได้แก่ ทรูแบงค็อกยูไนเต็ด, เกษตรศาสตร์เอฟซี และ สยามเอฟซี ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้าโครงการ BCG Model โดยใช้นวัตกรรม “drydye” ที่เป็นนวัตกรรมแรกของโลกที่สามารถย้อมผ้าโดยไม่ใช้น้ำซักหยดในเชิงอุตสาหกรรม ทำให้สามารถลดการใช้น้ำไปอย่างน้อย 25 ลิตรต่อตัว ซึ่งทั้ง 4 องค์กรกีฬา มีรวมกันมากกว่า 5,000 ตัว ก็จะสามารถเปรียบเทียบได้กับน้ำสะอาดที่จะมีไว้ใช้บริโภคไปได้อีกมากกว่า 125,000 ลิตร แสดงให้เห็นการใช้เทคโนโลยีมาทดแทนในส่วนที่เป็นจุดอ่อนของอุตสาหกรรมสิ่งทอ จะตอบโจทย์ความยั่งยืนให้กับธุรกิจ และเปิดโอกาสใหม่ๆ อีกหลายช่องทางในอนาคตต่อไป
ตามที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กำหนด นโยบายโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Bio – Circular – Green Economy: BCG Model) ซึ่งประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว มาเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการ “การท่องเที่ยวและกีฬาสีขาว” เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน นั้น กกท. จึงจัดกิจกรรม “SAT กับการพัฒนากีฬาไทย ภายใต้นโยบาย BCG” เพื่อเป็นการเปิดตัวยูนิฟอร์ม กกท. ที่ผลิตจากนวัตกรรม “drydye” ซึ่งเป็นนวัตกรรมการย้อมผ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตอบสนองกับนโยบาย BCG Model และก่อให้เกิดการสร้างความรู้ความเข้าใจขั้นพื้นฐานของนโยบายดังกล่าว ให้เข้าถึงประชาชน และเยาวชนในวงกว้าง
ผู้ว่าการ กกท. เผยว่า การขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาการกีฬาของประเทศไทย ภายใต้นโยบาย BCG Model เป็นการปลูกจิตสำนึกผู้มีส่วนร่วมทางการกีฬา อาทิ ผู้จัดหาวัสดุอุปกรณ์การกีฬา ผู้จัดการกีฬา และสาธารณชน ให้เกิด “พฤติกรรมภายใน” ซึ่งได้แก่ “การมีน้ำใจนักกีฬา เพื่อรักษ์สิ่งแวดล้อม” คือ รู้จักใช้ และอนุรักษ์ทรัพยากร เห็นความสำคัญ และคุณค่าของทรัพยากรที่ใช้ในกิจกรรมกีฬา โดยสามารถนำทรัพยากรไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือดำเนินกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด พร้อมทั้งปรับปรุงฟื้นฟูให้อยู่ในสภาพคงเดิมหลังการดำเนินกิจกรรม
ดร.ก้องศักด ยังเผยอีกว่า นอกจากนี้ยังเกิดการพัฒนาเป็น “พฤติกรรมภายนอก” ในการดำเนินกิจกรรมกีฬาให้ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเชิงบูรณาการ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการดำเนินกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ และการแข่งขันกีฬาเพื่อการอาชีพในระดับชาติและระดับนานาชาติ โดยอาศัยการบูรณาการและความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เกิดเป็นกิจกรรมกีฬาที่หลากหลาย พัฒนาเป็นอุตสาหกรรมกีฬา สร้างเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคมและประเทศชาติ ให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน
ด้าน วุฒิพงศ์ เย่ ประธานกลุ่มธุรกิจเย่ห์กรุ๊ป กล่าวว่า ในฐานะผู้ผลิตเสื้อผ้านวัตกรรม “drydye” ไม่ว่าจะเป็น ยูนิฟอร์มของทางกกท. และเสื้อของนักฟุตบอลจาก 3 สโมสร ได้แก่ ทรูแบงค็อกยูไนเต็ด, เกษตรศาสตร์เอฟซี และ สยามเอฟซี ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้าโครงการ BCG Model โดยใช้นวัตกรรม “drydye” ที่เป็นนวัตกรรมแรกของโลกที่สามารถย้อมผ้าโดยไม่ใช้น้ำซักหยดในเชิงอุตสาหกรรม ทำให้สามารถลดการใช้น้ำไปอย่างน้อย 25 ลิตรต่อตัว ซึ่งทั้ง 4 องค์กรกีฬา มีรวมกันมากกว่า 5,000 ตัว ก็จะสามารถเปรียบเทียบได้กับน้ำสะอาดที่จะมีไว้ใช้บริโภคไปได้อีกมากกว่า 125,000 ลิตร แสดงให้เห็นการใช้เทคโนโลยีมาทดแทนในส่วนที่เป็นจุดอ่อนของอุตสาหกรรมสิ่งทอ จะตอบโจทย์ความยั่งยืนให้กับธุรกิจ และเปิดโอกาสใหม่ๆ อีกหลายช่องทางในอนาคตต่อไป