สื่อดังระบุ ลิเวอร์พูล พร้อมขาย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลังจากสตาร์ทีมชาติอียิปต์พาทีมคว้าแชมป์สี่รายการได้สำเร็จเนื่องจากเจ้าตัวยังไม่คิดต่อสัญญาเพื่อป้องกันการเสียยอดดาวยิงแบบไร้ค่าตัว สถานการณ์ของ ซาลาห์ กับ หงส์แดง ต่อเรื่องการขยายสัญญายังไม่มีความแน่นอน และค้างเติ่งมานานจนถึงปัจจุบันด้วยเชื่อว่ากองหน้าแอฟริกันร้องขอตัวเงินสูงเกินกว่าที่ต้นสังกัดจะยินดีจ่าย ยิ่งไปกว่านั้น หงส์แดง ยังแสดงท่าทีว่าพร้อมเก็บ เจมส์ มิลเนอร์ ดาวเตะสารพัดประโยชน์ให้อยู่กับสโมสรต่อไปด้วยแม้เขาจะมีอายุ 36 ปีแล้วโดย เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันต้องการต่อสัญญาให้กับขุนพลจอมเก๋าก่อนที่เขาจะโชว์ฟอร์มสุดยอดในเกมล่าสุดที่ทีมบุกไปพิชิต นิวคาสเซิ่ล 1-0 เมื่อสุดสัปดาห์ด้วยซ้ำ และคาดว่า มิลเนอร์ จะยินดีลงน้ำหมึกเพื่อค้าแข้งกับทีมดังแห่งเมอร์ซีย์ไซด์เป็นปีที่แปด อย่างไรก็ดี สำหรับ ซาลาห์ ซึ่งเหลือสัญญาจนถึงปี 2023 เดอะ เทเลกราฟ รายงานความเคลื่อนไหวในรั้ว แอนฟิลด์ ออกมาว่า ลิเวอร์พูล พร้อมขายเขาออกจากทีมในซัมเมอร์นี้หลังจากเขาพาทีมสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์สี่รายการเป็นผลสำเร็จเนื่องจากตัวนักเตะปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อโดยไม่แสดงความจริงใจที่จะต่อสัญญาใหม่จึงส่งผลให้สโมสรเลือกขายพ่อค้าแข้งวัย 29 ปีแทนที่จะปล่อยให้เขาย้ายออกไปแบบไม่มีค่าตัว ต่อโอกาสย้ายสังกัดของ ซาลาห์ สื่อเจ้าดังกล่าวเสริมว่ามีสองสโมสรที่พร้อมกระชากเขาไปเสริมทัพทั้ง ปารีส แซงต์ แชร์กแทง ทีมเงินถังของฝรั่งเศส และอีกทีมในลีกสเปนซึ่งน่าจะได้แก่ เรอัล มาดริด หรือไม่ก็ บาร์เซโลน่า และคาดว่า ซาลาห์ เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าวฟุตบอลหมาดๆยินดีอำลา เร้ด แมชีน เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์ในลีกใหม่เช่นกัน สำหรับ ซาลาห์ ซึ่งซีซั่นนี้สอยตาข่ายใน พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 22 ประตูบวกกับ 13 แอสซิสต์ย้ายมาค่าแข้งกับ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2017 แต่ยังเกี่ยงงอนที่จะฝากอนาคตเอาไว้กับสโมสร ต่างไปจาก คล็อปป์ เจ้านายชาวเมืองเบียร์ซึ่งก่อนหน้านี้ยืนยันว่าจะไปจากทีมหลังหมดสัญญา แต่เมื่อไม่นานมานี้เขาเปลี่ยนใจต่อสัญญากุมบังเหียนสโมสรออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกาศรายชื่อ 20 นักฟุตบอลชายทีมชาติไทยเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชาย ในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีมชุดนี้มี "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีม พร้อมด้วย มาโน โพลกิ้ง เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน สำหรับ 20 นักเตะมีรายชื่อดังต่อไปนี้ ผู้รักษาประตู 2 ราย - กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ( การท่าเรือ เอฟซี / 32 ปี ) - ศุภณัฐ ทรวดทรง ( ทรู แบงค็อก / 22 ปี ) กองหลัง 6 ราย - โจนาธาน เข็มดี ( โอบี โอเดนเซ่-เดนมาร์ก / 19 ปี ) - อนุศักดิ์ ใจเพชร ( การท่าเรือ เอฟซี / 22 ปี ) - ธีรภัทร เลาหบุตร ( อยุธยา ยูไนเต็ด / 22 ปี ) - ชนภัช บัวพันธ์ ( ราชประชา / 18 ปี ) - นาคิน วิเศษชาติ ( บีจี ปทุม / 22 ปี ) - จตุรพัช สัทธรรม ( การท่าเรือ เอฟซี / 22 ปี ) กองกลาง 8 ราย - วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ( เมืองทอง ยูไนเต็ด / 25 ปี ) - วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ( บีจี ปทุม / 24 ปี ) - วิลเลี่ยม เวเดอร์เฌอ ( การท่าเรือ เอฟซี / 20 ปี ) - เบนจามิน เดวิส ( อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด-อังกฤษ / 21 ปี ) - อิรฟาน ดอเลาะ ( บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด / 21 ปี ) - ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช ( เอสโตริล ปรายย่า-โปรตุเกส / 20 ปี ) - เอกนิษฐ์ ปัญญา ( เชียงใหม่ ยูไนเต็ด / 22 ปี ) - นรากร นุ่มจันทร์สกุล ( ราชบุรี มิตรผล / 22 ปี ) กองหน้า 4 ราย - จักรกริช พาละพล ( ขอนแก่น ยูไนเต็ด / 22 ปี ) - ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ( การท่าเรือ เอฟซี / 19 ปี ) - พาตริก กุสตาฟสัน ( เชียงใหม่ เอฟซี / 21 ปี ) - กรวิชญ์ ทะสา ( เมืองทอง ยูไนเต็ด / 22 ปี ) โดย สมาคมฯ ได้ประสานแจ้งขอตัวนักกีฬากับสโมสรต้นสังกัดล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเดินทางเข้าเก็บตัวในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ที่ ศูนย์ฝึกยามาโอกะ ฮานาซากะ อคาเดมี และจะเดินทางไปประเทศเวียดนาม ในวันที่ 4 และ 5 พฤษภาคม 2565 สำหรับ ทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม อยู่กลุ่มบี ร่วมกับ มาเลซีย กัมพูชา, สปป.ลาว และ สิงคโปร์ โดยกลุ่มนี้จะแข่งขันที่ เธียน ตรวง สเตเดียม ในเมือง นัม ดินห์ มีโปรแกรมการแข่งขัน ดังนี้ นัดแรก : ไทย พบ มาเลเซีย ที่ เธียน ตรวง สเตเดียม วันที่ 7 พฤษภาคม 2565 เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดช่อง PPTV HD นัดที่สอง : ไทย พบ สิงคโปร์ ที่ เธียน ตรวง สเตเดียม วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดช่อง MCOT HD30 นัดที่สาม : กัมพูชา พบ ไทย ที่ เธียน ตรวง สเตเดียม วันที่ 14 พฤษภาคม 2565 เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดช่อง GMM 25 นัดที่สาม : สปป.ลาว พบ ไทย ที่ เธียน ตรวง สเตเดียม วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดช่อง 7 HD รอบรองชนะเลิศ : วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ที่สนาม หมีดิญ กรุงฮานอย รอบชิงเหรียญทองแดง : วันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ที่สนาม หมีดิญ กรุงฮานอย รอบชิงเหรียญทอง : วันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ที่สนาม หมีดิญ กรุงฮานอย
"พนิต" ชี้ตั้ง "บ่อนกาสิโน" ในไทย ห้ามผูกขาดจังหวัดใหญ่ หนุนนอกเมืองกระจายรายได้ -ลดความเหลื่อมล้ำ ยก "ลาสเวกัส" ต้นแบบ-พลิกทะเลทรายกลายเป็นเมืองเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 28 ม.ค.65 นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว ระบุว่า "ผมได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดกาสิโนและสถานบันเทิงครบวงจร และการจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฏหมาย และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฏหมาย ตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ ซึ่งจากการประชุมเมื่อวานนี้ ได้มีมติตั้งคณะอณุกรรมาธิการ 4 ชุด เพื่อพิจารณาศึกษาในรายละเอียดของสถานบันเทิงทุกรูปแบบ ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษากฏหมาย การจัดเก็บรายได้และภาษี จากสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) 2.คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาการป้องกัน แก้ไขปัญหาผลกระทบ ศึกษาพื้นที่ความเป็นไปได้ และหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) 3.คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาการลงทุนและรูปแบบการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร และ 4.คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาธุรกิจ Gaming" "ซึ่งเรื่องนี้ผมมองว่า เป็นเรื่องที่เราต้องใส่ใจในรายละเอียดให้มาก ทั้งมิติทางด้านสังคมและทางด้านเศรษฐกิจ ถ้ามองในด้านเศรษฐกิจ การเปิดกาสิโนถูกกฏหมายนั้น นับได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะเป็นอุตสาหกรรมที่จะสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับประชาชนในพื้นที่ และจะต่อยอดให้เศรษฐกิจทั้งในระดับพื้นที่ และระดับประเทศโตขึ้นอย่างมาก รวมถึงรัฐบาลเอง ก็จะมีรายได้จากภาษีจากส่วนนี้ด้วยพอสมควร" นายพนิต ระบุ นายพนิต ระบุต่อว่า "หลายคนคงตั้งคำถามต่อว่า แล้วจะเปิดในจังหวัดไหนดี? ส่วนตัวผมมองว่าการเปิดในพื้นที่จังหวัดหัวเมืองนั้นก็ดี แต่ก็จะกลายเป็นเฟื่องฟูอยู่กระจุกเดียวแบบเดิมๆ แต่ถ้าเราเลือกที่จะไปในจังหวัดห่างไกล และการพัฒนาหลายๆอย่างยังไม่เท่ากับจังหวัดหัวเมือง ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีและเหมาะสมกว่า เพราะว่านอกจากจะทำให้เศรษฐกิจคล่องตัวมากขึ้น ยังทำให้จังหวัดนั้นและพื้นที่ใกล้เคียง มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างงาน การท่องเที่ยว ธุรกิจค้าขาย-โรงแรม การคมนาคมและอื่นๆ เป็นต้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ เมือง Las Vegas ในรัฐ Nevada ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เป็นเมืองที่อยู่กลางทะเลทรายห่างไกลการพัฒนา แต่เมื่อมีอุตสาหกรรมสถานบันเทิงและกาสิโนเข้าไป เมืองที่เคยมีแต่ทะเลทราย กลายเป็นเมืองที่มีการเจริญเติบโตทางการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจอย่างมหาศาล" "สถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโนนี้ จะต้องลดความเหลื่อมล้ำไม่ผูกขาดที่ใดที่หนึ่ง เพื่อเพิ่มการกระจายรายได้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจในประเทศเติบโตมากขึ้น เรื่องนี้ เราคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และต้องทำให้ประชาชนเข้าใจมากขึ้นว่า เขาจะได้อะไรและประเทศจะได้อะไร #กระจายรายได้สู่พื้นที่ที่ขาดโอกาส" นายพนิต ระบุ