ยอห์น วิค อดีตหัวหน้าแมวมองของ โมลด์ ระบุ หลายทีมใน พรีเมียร์ลีก เคยส่งคนมาเช็กฟอร์ม เออร์ลิง ฮาลันด์ ตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่กับ โมลด์ อย่างเช่น ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล แต่ทีมเหล่านั้นกลับเมิน ฮาลันด์ เอง เพราะคิดว่าเขาเล่นได้แค่บทบาทหัวหอกตัวเป้า ยอห์น วิค อดีตหัวหน้าแมวมองของ โมลด์ สโมสรในประเทศนอร์เวย์ กล่าวว่า ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล อยู่ในกลุ่มสโมสรจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เคยส่งคนมาดูฟอร์มของ เออร์ลิง ฮาลันด์ ตั้งแต่สมัยยังเป็นเพียงเยาวชน แต่กลับไม่เซ็นสัญญากับ ฮาลันด์ เอง ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฮาลันด์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่เก่งที่สุดของโลก จากการที่สามารถทำประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยแค่ตอนนี้เขาก็ทำประตูให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้วถึง 13 ประตูจากการลงเล่นในทุกรายการ ทั้งที่เพิ่งลงสนามไปแค่ 9 นัดเท่านั้น วิค เผยว่า "เวลาที่พวกเขาเห็นกองหน้าร่างใหญ่อย่าง เออร์ลิง น่ะ พวกเขากลับมองคนแบบนั้นว่าทำได้เพียงรับบทหัวหอกตัวเป้าที่ยืนพักบอลในแดนหน้าเท่านั้น ผมคิดว่าพวกเขาลืมที่จะพิจารณาว่าที่จริงแล้วเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง ลิเวอร์พูล สามารถดึงเขาไปร่วมทัพได้ อาร์เซน่อล เองก็สามารถเซ็นสัญญากับเขาได้ ทุกทีมส่งแมวมองไปดูฟอร์มของเขา แต่สโมสรเหล่านี้กลับมองกองหน้าหมายเลข 9 ที่สูงและตัวใหญ่โดยที่คิดเพียงแค่ว่า -โอ้ หมอนี่จะรับบทได้แค่กองหน้าตัวเป้า- ตลอดชีวิตของผมน่ะผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงจำกัดบทบาทของเขาให้อยู่แค่นั้น" "บอกตามตรงเลยว่าผมไม่ชอบเวลาที่เขาเล่นแบบยืนหันหลังให้กับปากประตู ตอนนั้นเขาโหม่งบอลไม่เก่งด้วยซ้ำ ผมชอบเวลาที่เขาพลิกตัว, วิ่งเข้าไปในพื้นที่ว่าง, วิ่งทะลวงแนวของคู่แข่ง, เวลาที่เขาเคลื่อนที่ในกรอบเขตโทษ เขาไม่ใช่พวกที่อยากรับบทเป็นตัวพักบอลหรอก เขาแค่อยากพลิกตัวแล้ววิ่งไปก็เท่านั้น มันจะมีหลายสโมสรที่ต้องโทษตัวเอง เพราะตอนนี้เราได้เห็นกันแล้วว่าเขาเก่งในด้านไหน"
แกรม พ็อตเตอร์ นายใหญ่ป้ายแดงของ เชลซี เปิดตัวในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ไม่สวยเท่าที่ควรเมื่อพาทีมเฝ้าบ้านโดน เร้ดบูลล์ ซัลซบวร์ก ไล่ตีเสมอ 1-1 จากเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสองเมื่อวันพุธที่ 14 ก.ย. จากหนึ่งแต้มที่เก็บได้ในเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ส่งผลให้ สิงห์บลูส์ ยังรั้งอันดับบ๊วยของกลุ่มต่อไปโดยกุนซืออิงลิชมีงานหนักที่ต้องแก้ไขให้กับทีมมหาเศรษฐีรายนี้อีกพอสมควร 1.ทีมชุดแรกของ พ็อตเตอร์ บอกอะไรเราบ้าง? เทียบจากเกมล่าสุดซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของ โธมัส ทูเคิ่ล พ็อตเตอร์ ตัดสินใจโรเตชั่นทีมสามตำแหน่งจากเกมออกไปแพ้ ดินาโม ซาเกร็บ 1-0 ในจำนวนนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่านายใหญ่คนใหม่ของ สิงห์บลูส์ จัดแจงดร็อปคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่ใหม่ที่ ทูเคิ่ล ดึงมาร่วมทีมให้ลงไปนั่งเป็นตัวสำรองพร้อมกันทั้ง คาลิดู คูลิบาลี่ และ เวสลีย์ โฟฟาน่า ซึ่งถูกบรรดากูรูจวกว่าเป็นการซื้อที่ผิดพลาด และใช้เงินมากเกินจริงเกินกว่า 100 ล้านปอนด์สำหรับสองรายนี้ ส่วนอีกตำแหน่งเป็นแบ็คซ้ายซึ่งไม่น่าแปลกใจที่อดีตกุนซือทีม ไบรท์ตัน ส่ง มาร์ค กูกูเรนย่า เด็กเก่าของตัวเองกลับมาเป็นตัวจริงแทน เบน ชิลเวลล์ ที่ได้ออกสตาร์ตนัดที่แล้ว เท่ากับว่า พ็อตเตอร์ เล็งเห็นว่าเกมรับของ เชลซี มีปัญหาหลังเสียประตูมากเกินควรในซีซั่นนี้ และตัดสินใจล้างบางเด็กในคาถาของ ทูเคิ่ล อย่างที่เห็น แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า ติอาโก้ ก่อความผิดพลาด และมันสำคัญยิ่งเนื่องจากเป็นการเปิดโอกาสให้ เร้ดบูลล์ ซัลซบวร์ก ทวงประตูคืน 2.ประเดิมเกมยากตั้งแต่หัววัน อันที่จริง หลังถูกดึงมาคุมทีมแทน ทูเคิ่ล กุนซือวัย 47 ปีจะต้องประเดิมโชว์ฝีมือเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานัดบุกไปเยือน ฟูแล่ม ด้วยซ้ำ หากแต่หลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธ ที่ 2 เกมดังกล่าวที่ คราเวน คอตเทจ จึงถูกเลื่อนออกไป และทำให้ พ็อตเตอร์ ต้องประเดิมทำหน้าที่ในเกมเปิดบ้านต้อนรับ เร้ดบูลล์ ซัลซบวร์ก แทนซึ่งถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้สัมผัสกับเกมถ้วยหูใหญ่ อย่างไรก็ดี พ็อตเตอร์ เคยมีประสบการณ์คุมทีมลงเล่นถ้วย ยูโรปาลีก มาก่อนแล้วสมัยเป็นนายใหญ่ทีม ออสเตอร์ซุนด์ ในลีกสวีเดนโดยเขาสร้างชื่อพาทีมไต่ระดับจากดิวิชั่นสี่ตั้งแต่ปี 2011 เลื่อนชั้นขึ้นไปคว้าสิทธิ์เตะถ้วยดังกล่าวได้ในซีซั่น 2017/18 แถมเอาชนะ กาลาตาซาราย ทะลุเข้ารอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จอีกด้วย ขณะเดียวกัน พ็อเตอร์ เป็นกุนซืออิงลิชรายที่แปดที่ได้คุมทีมฟาดแข้งถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก และเป็นคนที่สองในทีม เชลซี ต่อจาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด ถึงกระนั้น ในจำนวนนี้มีแค่สองรายเท่านั้นที่ประเดิมพาทีมกำชัยได้ในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก นัดแรกของพวกเขาคือ เคร็ก เช็คสเปียร์ (เลสเตอร์ เดือนมี.ค.2017) และ ไมเคิ่ล คาร์ริค (แมนฯ ยูไนเต็ด เดือนพ.ย.2021) 3. โอบาเมยอง ไม่ใช่คำตอบ ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง อดีตกองหน้าทีม อาร์เซน่อล ถูก เชลซี ดึงตัวจาก บาร์เซโลน่า กลับสู่ลอนดอนให้เป็นตัวแทนของ โรเมลู ลูกากู และ ติโม แวร์เนอร์ แม้ พ็อตเตอร์ จะย้ายมารับงานแทน ทูเคิ่ล แล้ว แต่เขาเลือกส่งดาวโรยวัย 33 ปีลงเล่นเป็นตัวจริงต่ออีกเกมหลังสตาร์แอฟริกันได้ประเดิมสนามกับ สิงห์บลูส์ ในนัดออกไปแพ้ ดินาโม ซาเกร็บ และโดนเปลี่ยนออกหลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมง และแล้วในเกมกับทีมจาก ออสเตรีย สตาร์ผิวสีหนีไม่พ้นโดนถอดออกอีกตามเคยเนื่องจากไม่อาจสร้างผลงานได้ดีพอด้วยเหตุผลของความเชื่องช้า ประกอบกับอายุที่มากขึ้นซึ่งบ่งบอกให้เห็นว่าเขาพ้นจากจุดสุดยอดไปแล้ว และ พ็อตเตอร์ น่าจะต้องเซ็นสัญญากับศูนย์หน้าคนใหม่ในช่วงเปิดตลาดเดือนม.ค.เนื่องจากเกมเมื่อวันพุธฟ้องอยู่ทนโท่ว่า สิงห์บลูส์ ยังประสบกับปัญหาขาดหัวหอกตัวเป้าจำพวกโป้งปิดบัญชีซึ่งแม้จะมีโอกาสสับไกรวม 17 ครั้ง แต่พวกเขาส่งบอลเข้ากรอบได้แค่ 4 ครั้งเท่านั้น 4.ราฮีม "เดอะ แบก" สเตอร์ลิ่ง การขาดหัวหอกที่สามารถผลิตสกอร์อย่างเชื่อใจได้ ทำให้ สเตอร์ลิ่ง จำเป็นต้องร่วมแบกรับภาระตรงนี้อย่างหนักด้วย และอันที่จริงเขาเกือบได้เป็นฮีโร่ของเกมอยู่แล้วหากไม่โดน เร้ดบูลล์ ซัลซบวร์ก ซัดลูกตีเสมอเข้าให้ซะก่อน ถึงกระนั้น อย่างน้อยประตูของ สเตอร์ลิ่ง ซึ่งได้รางวัล แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ ก็บังเกิดต่อหน้า แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติ อังกฤษ ที่เตรียมประกาศรายชื่อนักเตะชุด เนชั่นส์ลีก ฟัดกับ อิตาลี และ เยอรมัน ออกมาในวันพฤหัสบดีนี้ และขณะเดียวกันปีกจอมลีลาสร้างผลงานมีส่วนกับประตู (ทั้งยิงและแอสซิสต์) 250 ลูกแล้วกับทุกสโมสรที่เขาค้าแข้งด้วย (158 ประตู 92 แอสซิสต์) ซึ่งแบ่งออกได้ดังนี้ ลิเวอร์พูล : 23 ประตู 17 แอสซิสต์ แมนฯ ซิตี้ : 131 ประตู 74 แอสซิสต์ เชลซี : 4 ประตู 1 แอสซิสต์ นอกจาก สเตอร์ลิ่ง แล้ว รีซ เจมส์ กับ เมสัน เมาท์ สองดาวเตะอิงลิชก็มีส่วนร่วมในการทำให้ สิงห์บลูส์ ได้ประตูออกนำทีมเยือนเช่นกัน จึงเชื่อว่าสามสตาร์จาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ น่าจะควงกันมีชื่อติดโผทีม ทรี ไลอ้อนส์ ชุดล่าสุดนี้ค่อนข้างแน่ 5.นัดต่อไปของ เชลซี ไม่เพียงเกม พรีเมียร์ลีก ก่อนหน้านี้กับ ฟูแล่ม ทีมร่วมเมืองจะถูกประกาศให้เลื่อนออกไปเท่านั้น แต่เกมสุดสัปดาห์นี้นัดต้อนรับ ลิเวอร์พูล ของ เชลซี ก็ถูกเลื่อนออกไปแล้วเช่นกันก่อนหน้าพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินี เอลิซาเบธ ที่ 2 ซึ่งมหานครลอนดอนจำเป็นต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความเรียบร้อยนับพันนาย ฉะนั้นแล้ว กว่าที่ พ็อตเตอร์ จะได้สำแดงฝีมือต่อในเกมที่สองของเขากับเศรษฐีเมืองกรุงจึงต้องรอจนถึงต้นเดือนหน้านัดบุกไปทำศึกดาร์บี้แม็ตช์กับ คริสตัล พาเลซ เนื่องจากเข้าสู่ช่วง ฟีฟ่าเดย์ ที่มีคิวของเกมทีมชาติเข้ามาแทรกพอดี
แกรม พ็อตเตอร์ กุนซือคนใหม่ของ เชลซี ออกอาการผิดหวังหลัง สิงห์บลูส์ ทำได้แค่เสมอกับ เร้ดบูลล์ ซัลซบวร์ก ในบ้านด้วยสกอร์ 1-1 จากการลงเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสองเมื่อวันพุธที่ 14 ก.ย.ที่สังเวียนแข้ง สแตมฟอร์ด บริดจ์ พ็อตเตอร์ อดีตผู้จัดการทีม ไบรท์ตัน ได้ประเดิมคุมทีม เชลซี ลงเตะถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรกในชีวิตหลังจาก โธมัส ทูเคิ่ล ถูกปลดเซ่นผลงานพาทีมออกไปแพ้นัดแรกของรายการนี้เมื่อสัปดาห์ก่อนให้กับ ดินาโม ซาเกร็บ 1-0 แต่สุดท้ายนายใหญ่วัย 48 ปีพาทีมทำได้แค่เสมอกับสโมสรจาก ออสเตรีย "เราผิดหวังกับผลลัพธ์ นักเตะทุ่มเทเต็มที่แล้ว เราเล่นเกมรุกอย่างรวดเร็ว เราพลาดโอกาสสุดท้ายเท่านั้น รวมแล้วมันน่าผิดหวัง มันไม่ใช่วันของเรา" พ็อตเตอร์ กล่าว "มันน่าโมโหเสมอเมื่อคุณเสียประตู รวมแล้วกองหลังโชว์ฟอร์มได้ดี มันเป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ต้องปรับปรุง" "เกมแรกไม่เคยง่ายสำหรับนักเตะ พวกเขาตอบสนองต่อเราได้ดีในสองสามวันที่ผ่านมา มันไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เราต้องการ แต่เราต้องยอมรับ เราจะดีขึ้นกว่านี้แน่" "เราเล่นระบบหลังสามโดยมี รีซ กับ ราฮีม อยู่ริมเส้น คุณไม่ต้องการให้ ราฮีม เล่นเกมรับในเขตโทษมากไป และผมไม่คิดว่าเขาจะทำ ผมคิดว่า มาร์ค กูกูเรย่า แบกรับสถานการณ์ได้ดี" "มันไม่ใช่อันดับตารางที่เราต้องการ แต่ทีมของเรามีคุณภาพมากพอ และเราจะต้องตอบสนอง เรารู้ว่าเราต้องชนะ และต้องสู้ เราอยู่ในช่วงเริ่มต้นระหว่างนักเตะกับสตาฟฟ์ ผมพร้อมทำงานหนักเพื่อทำให้ทีมนี้เป็นที่ภาคภูมิใจสำหรับกองเชียร์" "เรามีนักเตะชั้นยอด พวกเขาผิดหวังเพราะผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่เราต้องการ คุณสามารถรู้สึกได้ แต่มันเป็นงานของผมที่ต้องคว้าผลลัพธ์ให้ได้" "ผมคิดว่าทัศนคติของนักเตะยอดเยี่ยมมากในเกมที่ต้องดวลกับคู่แข่งชั้นดี พวกเขาเป็นคู่แข่งที่ทำให้คุณลำบาก ผมคิดว่าเราได้ ราฮีม สร้างโอกาสได้ดีในครึ่งแรกจากสถานการณ์แบบตัวต่อตัว และในครึ่งหลังเขายิงประตูได้ สุดท้ายแล้วเราจำเป็นต้องได้ระตูที่สอง แต่มันไม่เกิดขึ้น และเราผิดหวังที่ได้แค่แต้มเดียว" "นักเตะทุ่มเททุกอย่างแล้ว ผมภูมิใจกับปฏิกริยาของพวกเขา มันไม่ง่ายเมื่อต้องเปลี่ยนโค้ช และอีกหลายๆเรื่อง แต่ปฏิกริยาของพวกเขายอดเยี่ยมมาก จากการมองกันในด้านของความพยายาม ผมให้พวกเขา 100%"
ฮาลันด์ฮีโร่ซัดชัย! "เรือใบสีฟ้า" โกงความตาย หลังตามหลัง ดอร์ทมุนด์ ก่อนรัว 2 เม็ดใน 4 นาทีจาก จอห์น สโตนส์ ที่ตะบันไกลสุดสวย ก่อนที่ ฮาลันด์ จะซัดประตูชัยใส่ทีมเก่า พา แมนฯ ซิตี้ คว้าชัย 2-1 ชนิดหืดจับ เฮสองนัดรวดมี 6 แต้มนำเป็นจ่าฝูงของ กลุ่ม อี ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม จี (นัดสอง) เมื่อคืนวันพุธที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิด เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวสเปน เกมแรกบุกไปเอาชนะ เซบีย่า ในรายการนี้อย่างขาดลอย เกมนี้ส่ง มานูเอล อคานจี แนวรับตัวใหม่ลงดวลกับทีมเก่า เช่นเดียวกับ เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่ยืนแดนหน้าร่วมกับ ริยาด มาห์เรซ และ แจ็ค กรีลิช โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพปั้นเกมตรงกลาง ขณะที่ แอร์ดิน แทร์ซิช เทรนเนอร์ของ "เสือเหลือง" ใช้ จู๊ด เบลลิงแฮม ขับเคลื่อนเกมแดนกลาง ส่วนสามแนวรุกวาง มาร์โค รอยส์, โจวานนี่ เรย์น่า และ อ็องโตนี่ โมแดสต์ ช่วง 10 นาทีแรก "เรือใบสีฟ้า" ครองบอลได้เกือบทั้งหมดแต่แทบหาโอกาสยิงไม่ได้เลย กลายเป็น "เสือเหลือง" ในนาที 15 ที่ได้ลุ้นยิงเข้ากรอบหลัง ซาลีห์ เอิซชาน โยกปั่นด้วยขวาแต่บอลยังเบาไปเข้ามือ เอแดร์ซอน ลูกทีมของ เป๊ป เจอเกมที่ค่อนข้างอึดอัด แทบจะหาโอกาสยิงในพื้นที่อันตรายไม่ได้เลย นาที 26 ชูเอา คานเซโล่ ได้โอกาสวิ่งมาอัดด้วยขวาเน้นๆ แต่บอลพุ่งแรงข้ามคานออกไป จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ยังทำอะไร ดอร์ทมุนด์ เสมอกัน 0-0 โดย "เรือใบสีฟ้า" มีโอกาสยิงแค่ 4 ครั้งแต่ไม่เข้ากรอบเลยสักหน ครึ่งหลัง นาที 52 ดอร์ทมุนด์ ทิ้งโอกาสทองขึ้นนำหลัง มาร์โค รอยส์ หลุดเข้าก่อนล็อคสุดเนียนหนี อาเค่ แต่จังหวะซัดด้วยซ้ายปั่นหลุดเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย นาที 56 แฟนเรือใบสีฟ้า ต้องเงียบกันกริบ หลังท้พ "เสือเหลือง" พังประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะเตะมุมทางด้านขวาเปิดเข้ามาก่อนโดน ฮาลันด์ สกัดไปเข้าทาง มาร์โค รอยส์ หวดวอลเลย์เข้ามาก่อนที่ จู๊ด เบลลิงแฮม ที่อยู่ตำแหน่งไม่ล้ำหน้าจะสอดมาโขกเปลี่ยนทางเข้าไปตุงตาข่าย เป๊ป นั่งไม่ติด หลังเสียประตูอีกสองนาทีต่อมาเปลี่ยน 3 คนรวดส่งทั้ง โฟเด้น, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และฮูเลี่ยน อัลบาเรซ ลงไปเล่นแทน กรีลิช, กุนโดกัน และมาห์เรซ นาที 66 เจ้าบ้านเกือบได้ลุ้นตีเสมอหลัง เดอ บรอยน์ ตักบอลขึ้นหน้าให้ ฮาลันด์ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบแต่เจ้าตัวซัดไปเข้าข้างตาข่าย กระทั่ง นาที 80 แมนฯ ซิตี้ มาทวงประตูตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ ไหลคืนหลังมาให้ จอห์น สโตนส์ ตะบันเต็มข้อจากนอกกรอบบอลพุ่งส่ายเข้าไปอย่างสวยงาม ให้ "เรือใบสีฟ้า" ไล่ตีเสมอ 1-1 เท่านั้นไม่พอ แฟนเรือใบได้เฮกันลั่นเฮติฮัด หลังลูกทีมของเป๊ปแซงขึ้นนำ 2-1 ในนาที 84 จากจังหวะที่ ชูเอา คานเซโล่ ครอสบอลมาเสาไกลก่อนที่ ฮาลันด์ จะกระโดดยิงเปลี่ยนทางเข้าก้นตาข่ายชนิดที่ อเลซานเดอร์ ไมเออร์ หมดสิทธิ์ป้องกัน จบเกม แมนฯ ซิตี้ พลิกเอาชนะ ดอร์ทมุนด์ 2-1 เฮสองนัดรวดมี 6 แต้มนำเป็นจ่าฝูงของ กลุ่ม จี รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเค่, มานูเอล อคานจี, ชูเอา คานเซโล่ - อิลคาย กุนโดกัน (แบร์นาร์โด้ ซิลวา น.58), โรดรี้, เควิน เดอ บรอยน์ - ริยาด มาห์เรซ (ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ น.58), เออร์ลิง ฮาลันด์ (คาลวิน ฟิลลิปส์ น.90+2), แจ็ค กรีลิช (ฟิล โฟเด้น น.58) เทรนเนอร์ : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : อเลซานเดอร์ ไมเออร์ - โธมัส เมอนิเยร์, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ , นิคลาส ซือเล่, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ - ซาลีห์ เอิซชาน (ยุสซูฟา มูโกโก้ น.81), เอมเร่ ชาน, จู๊ด เบลลิงแฮม - มาร์โค รอยส์ (คาริม อเดเยมี่ น.88), อ็องโตนี่ โมแดสต์ (นิโก้ ชลอตเตอร์เบ๊ค น.78), โจวานนี่ เรย์น่า (ดอนเยลล์ มาเล่น น.62) เทรนเนอร์ : แอร์ดิน แทร์ซิช
ประตู ทีมพัทลุง เอฟซี เดือด ไม่พอใจโดนแดง ตุ๊ยท้องกรรมการ หลังโดนนำห่าง 4-1 เพื่อนร่วมทีมวิ่งมาแยกวุ่น ในศึกไทยลีก 3 โซนภาคใต้ เป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเลียนแบบในสนามฟุตบอล โดยในการแข่งขัน ฟุตบอลไทยลีก 3 โซนภาคใต้ ระหว่าง เอ็มเอช นครศรี Vs พัทลุง เอฟซี ปรากฏว่าในนาทีที่ 82 ในขณะที่เจ้าบ้าน เอ็มเอช นครศรี นำอยู่ 4-1 ในจังหวะที่ สุรฉัตร สุวรรณตานนท์ ผู้รักษาประตู พัทลุง เอฟซี โดนใบเหลืองแรกจากการ เตะบอลอัดใส่ สมศักดิ์ มุสิกะพันธ์ ศูนย์หน้าของเจ้าบ้าน ซึ่งหลังกรรมการแจกใบเหลือง เจ้าตัวไม่พอใจคำตัดสิน เข้าไปผลักที่คอผู้ตัดสิน ทำให้โดนใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม ซึ่งหลังโดนใบแดงปรากฏว่า สุรฉัตร เดินเข้าไปหาผู้ตัดสิน แล้วออกหมัดเข้าที่ท้องของผู้ตัดสิน ก่อนที่ผู้เล่นทีมเยือนจะกรูเข้ามาแยกตัวออกไป
โธมัส ทูเคิล อดีตผู้จัดการทีม เชลซี เปิดใจครั้งแรกหลังถูกปลดพ้นตำแหน่งกุนซือ “สิงโตน้ำเงินคราม” โดยขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้อง พร้อมชี้สุดภูมิใจที่ได้เป็นเฮดโค้ชในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ พร้อม โดย ทูเคิล เข้ามาคุมทัพ เชลซี ตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งเจ้าตัวก็พาทีมประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ 3 รายการประกอบด้วย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 7 ก.ย. เฮดโค้ชวัย 49 ปีกลับโดนปลดออกจากตำแหน่งกุนซือ “สิงโตน้ำเงินคราม” แบบฟ้าผ่าหลังเกมพ่าย ดินาโม ซาเกร็บ 0-1 ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม และเป็น แกรม พอตเตอร์ ที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นนายใหญ่คนใหม่ของ เชลซี แทน จนล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ทูเคิล ได้โพสต์ข้อความเป็นครั้งแรกหลังพ้นตำแหน่งเทรนเนอร์ เชลซี “นี่เป็นหนึ่งในข้อความที่ยากที่สุดที่ผมเคยเขียนมา และเป็นสิ่งที่ผมหวังว่าจะไม่ต้องทำในอีกหลายปี นี่คือสโมสรที่ผมรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ทั้งในด้านอาชีพ และชีวิตส่วนตัว ขอบคุณมากสำหรับสต๊าฟ นักเตะ และกองเชียร์ทุกคนที่ทำให้ผมรู้สึกได้รับการต้อนรับอย่างมากตั้งแต่เริ่มต้น” “ความภาคภูมิใจ และความปีติที่ได้ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์แชมเปียนส์ ลีก และคลับ เวิลด์ คัพ จะอยู่กับผมตลอดไป ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้ และความทรงจำในช่วง 19 เดือนที่ผ่านมาจะเป็นสถานที่พิเศษในใจผมเสมอ”
ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย โชว์ฟอร์มเฉียบขาดเอาชนะ เวียดนาม 3-0 เซ็ต ผงาดคว้าแชมป์วอลเลย์บอล อาเซียน กรังด์ปรีซ์ 2022 การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงรายการ “อาเซียน กรังด์ปรีซ์ 2022” ครั้งที่ 2 ที่ยิมเนเซียมชาติชาย ฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา แข่งขันแบบพบกันหมด 4 ทีม ทีมที่ชนะได้มากที่สุด จะคว้าแชมป์ไปครอง เมื่อวันที่ 11 ก.ย.65 เป็นการลงสนามนัดที่ 3 นักตบสาวไทย อันดับ 14 ของโลก ที่เพิ่งคว้าอันดับ 3 ศึกเอวีซี คัพ 2022 และเจ้าของแชมป์เก่า ปี 2019 และชนะมา 2 นัดรวด พบกับ เวียดนาม ที่ชนะมา 2 นัดรวดเช่นกัน แมตช์นี้หากทีมใดชนะจะคว้าแชมป์ทันที เกมนี้ “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอน จัดผู้เล่นตัวจริง ลงสนามประกอบด้วย พรพรรณ เกิดปราชญ์, หัตถยา บำรุงสุข, พิมพิชยา ก๊กรัมย์ , วิภาวี ศรีทอง, อัจฉราพร คงยศ, ฑิชากร บุญเลิศ โดยมี ปิยะนุช แป้นน้อย เป็นตัวรับอิสระ เซ็ตแรกทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสูสี ก่อนที่ในช่วงกลางเกม ทีมสาวไทยจะมาทิ้งห่างหลายแต้ม ก่อนปิดเซ็ตเอาชนะไปได้ 25-19 ขึ้นนำ 1-0 เซ็ต ในเซ็ตที่ 2 ยังเป็นทีมตบสาวไทยที่เล่นได้แน่นอนกว่า อย่างไรก็ตามในเซ็ตนี้ วิภาวี ศรีทอง เกิดอาการบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวเอา แต่ไม่เป็นปัญหาโดยทีมตบสาวไทยยังเล่นได้ตามเกมก่อนปิดเซ็ตเอาชนะไป 25-17 ส่วนเซ็ตที่ 3 เป็นทางสาวเวียดนามที่เริ่มเครื่องร้อนในช่วงต้นเกม อย่างไรก็ตามสาวไทยมาตบไล่แซง ก่อนที่จะปิดเซ็ตเอาชนะไป 26-24 สรุปผลการแข่งขัน ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติเวียดนาม 3-0 เซ็ต 25-19, 25-17 และ 26-24 ทีมตบลูกยางสาวไทย ผงาดคว้าแชมป์ศึกอาเซียน กรังด์ปรีซ์ 2022 มาครองได้สำเร็จจากการลงสนาม 3 นัดชนะ 3 นัด และมี 9 แต้มเต็ม ขณะที่อีกคู่ ฟิลิปปินส์ แพ้ อินโดนีเซีย 0-3 เซ็ต
นพรุจ เหมภมร หรือ TLN Book โชว์ฟอร์มสมราคา เอาชนะ รัชวิน ธนสุนทรกูล หรือ Shin Akuma ไปได้ในรอบแกรนด์ไฟนอลส์ พร้อมตีตั๋วแข่งต่อที่บาหลี การแข่งขันอีสปอร์ต เกม Tekken 7 รายการ Road to 14th IESF World Championship BALI 2022 ที่จัดขึ้นในมหกรรมกีฬาแอร์ซีแลนด์ เซาเธิร์น อินเตอร์เนชันแนล สปอร์ต ทัวร์ริซึม ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. รอบแกรนด์ไฟนอลส์ TLN Book เพลเยอร์ดาวดังของวงการ Tekken 7 ของไทย พบกับ Shin Akuma โดยการแข่งขันในวันนี้ปรากฎว่า Bookยังออกอาวุธและจับจังหวะได้เฉียบขาดกว่า และปิดเกมเอาชนะไปได้ 3-0 เกม คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท และตั๋วในการเป็นตัวแทนทีมชาติไปทำการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลก หรือ 14th IESF World Championship 2022 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งหลังจบการแข่งขันBook ให้สัมภาษณ์กับทีมงานข่าวสดอีสปอร์ต ว่า “สำหรับผลงานในรายการนี้ถือว่ายังขาดเรื่องความสม่ำเสมออยู่บ้าง ก็จะไปพัฒนาการเล่นให้ดีขึ้นในอนาคต” “ทั้งนี้ผมรู้สึกดีที่มีการจัดการแข่งขันรายการแบบนี้ในต่างจังหวัด ซึ่งผมก็อยากให้มีทัวร์นาเมนต์แบบนี้จัดขึ้นอีกในอนาคต” ส่วนShin Akuma จบอันดับ 2 รับเงินรางวัล 15,000 บาท และอันดับ 3 ชนินทร ไครทิพพิสมัย หรือ Monja รับเงินรางวัล 5,000 บาท
การแข่งขันฟุตบอลเจลีก ฤดูกาล 2022 ประจำวันอาทิตย์ ที่ 11 ก.ย.65 ที่ซัปโปโร โดม คอนซาโดเล ซัปโปโร ทีมอันดับ 12 เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน จูบิโล่ อิวาตะ ทีมบ๊วยของตาราง โดยเกมนี้ “เช็ค” สุภโชค สารชาติ แข้งความหวังทีมชาติไทย ได้ลงสนามในนาที 85 ก่อนจะเวลาเพียงน้อยนิดทำแอสซิสต์ ไหลบอลให้ โทโมกิ ทาคามิเนะ หลุดเข้าไปยิงปิดกล่องให้ ซัปโปโร เอาชนะ 4-0 ซึ่งถือเป็น แอสซิสต์ที่ 3 ของ สุภโชค ในเจลีกซีซั่นนี้ สำหรับ สุภโชค ลงสนามเป็นตัวสำรองทั้งหมด 5 นัด รวมระยะเวลาลงเล่น 53 นาที ทำไปแล้ว 3 แอสซิสต์ ซึ่งในเกมกับ จูบิโล่ อิวาตะ ลงสนาม 4 นาที ทำผลงาน แอสซิสต์ 1 สร้างโอกาส 2 ครั้ง ส่งบอล 12 ครั้ง ส่งบอลสำเร็จ 12 ครั้ง วิ่ง 1.2 กิโลเมตร สปรินต์ 2 ครั้ง หลังจบเกม สุภโชค สารชาติ เผยว่า เป็นเกมที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีม เพื่อนๆทุกคนทำได้ดีมาก เหมาะสมแล้วที่เราได้รับชัยชนะในนัดนี้ ส่วนจังหวะแอสซิสต์นั้น เป็นจังหวะทำชิ่งปกติ เป็นจังหวะฟุตบอล พยายามทำให้ทีมได้เปรียบ และจ่ายเร็วที่สุด ซึ่งความตั้งใจในวันนี้ก็พยายามลงไปเพิ่มสกอร์ให้กับทีม เพราะทีมนำอยู่ และผู้เล่นก็มากกว่า ก็คิดว่ามีโอกาสที่จะเพิ่มสกอร์ให้ทีมได้ ซึ่งสุดท้ายก็มีส่วนร่วมในการทำประตูเพิ่ม ส่วนฟอร์มการเล่นของตัวเองในตอนนี้ ถือว่าพอใจระดับหนึ่ง แต่อยากมีโอกาสลงสนามมากกว่า อยากโชว์ศักยภาพตัวเองอย่างเต็มที่ สำหรับเกมหน้าพบกับ มารินอส ถือเป็นเกมที่สนุกอยากให้ทุกคนติดตาม พวกเราสู้เต็มที่แน่นอน สำหรับ โปรแกรมต่อไปของ คอนซาโดเล ซัปโปโร มีคิวบุกเยือน โยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส ในวันอาทิตย์ ที่ 18 ก.ย.
สโมสรฟุตบอลคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ มีคิวลงทำศึกเจลีกพบกับรองจ่าฝูง ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ในวันเสาร์ ที่ 10 ก.ย.65 ซึ่งเป็นเกมเดิมพันการไล่ล่าแชมป์ในฤดูกาล 2022 นี่คือคู่แข่งสำคัญของทีมต้นสังกัด เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ เนื่องจากเป็นทีมที่แกร่งสุดๆในเวลานี้ 8 เกมหลังทุกรายการไม่แพ้แม้แต่เกมเดียว ที่สำคัญชนะ 8 เกมรวด อีกทั้ง 5 เกมหลังในลีก ชนะรวด และ 7 เกมเยือนหลังสุดทุกรายการไม่แพ้คู่แข่งเลย นี่คือความแข็งแกร่งที่ต้องระวังหากคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ คิดจะไปต่อในเส้นทางการลุ้นแชมป์ แต่อีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจของ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ที่ทำให้คู่แข่งทุกทีมประมาทไม่ได้ คือการเล่นแบบฟูลคอร์สตลอด 90 นาที มีสมาธิมีความมุ่งมั่นจนจบเกม หากย้อนไปดูสถิติในช่วง 10 เกมหลัง ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ยิงประตูเอาชนะคู่แข่งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บถึง 5 เกม เรียกได้ว่าไม่สิ้นเสียงนกหวีดไม่หยุดเล่นไม่หยุดความมุ่งมั่น พุ่งตรงทยานสู่เป้าหมายตลอดเวลา สถิติยิงประตู ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ช่วงทดเวลา 5 จาก 10 เกมหลังทุกรายการ 7 ก.ย.65 เซเรโซ โอซากา 1-2 ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า 90+1 (ทาคุมะ คาวามูระ) เอ็มพาเรอร์คัพ 3 ก.ย.65 ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า 2-0 ชิมิสึ เอส พัลส์ 90+5 (ทาคุมะ คาวามูระ) เจลีก 27 ส.ค.65 เซเรโซ โอซากา 0-3 ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า 90+10 (ปิรอส โซติริอู) เจลีก 6 ส.ค.65 คาชิม่า แอนท์เลอร์ 0-2 ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า 90+5 (เอเซเคียล) เจลีก 3 ส.ค.65 ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า 3-1 โยโกฮามา เอฟ มารินอส 90+8 (กาคุโตะ โนสุดะ) เจลีก คัพ